ทุเรียนเป็นไม้ผลที่เอาใจยาก ถึงจะปลูกได้ทุกภาค แต่ไม่ใช่ทุกที่จะให้ผลผลิตคุณภาพ ปราจีนบุรีได้ชื่อว่าเป็นแหล่งผลิตทุเรียนคุณภาพแห่งหนึ่งจนได้ขึ้นทะเบียนสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือ GI (Geographical Indication) (ทุเรียนปราจีนบุรีที่ได้รับ GI มี 7 สายพันธุ์ เป็นพันธุ์การค้า 4 สายพันธุ์ คือ ก้านยาว หมอนทอง ชะนี กระดุมทอง กับพันธุ์พื้นเมือง 3 สายพันธุ์คือ กบชายน้ำ ชมพูศรี และกำปั่น)
ภาพจำของคนทั่วไปคือ แหล่งทุเรียนดีๆมักอยู่ในเขตฝนชุกอย่างเช่นภาคตะวันออก แหล่งปลูกทุเรียนเชิงพาณิชย์ที่โด่งดัง คือระยอง หรือภาคใต้ตอนล่างก็มีชื่อเสียงหลายแห่ง ทั้งพังงาไปจนถึงยะลา ปราจีนบุรีแม้จะตั้งอยู่ในพื้นที่กลุ่มป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ แต่ก็ไม่ใช่พื้นที่ฝนชุกเหมือนสองภาคดังกล่าว


“ทุเรียนปราจีนรสชาติดีเพราะความที่เป็นดินลูกรัง” เดชศักดิ์ บุญทาสิน สมญานาม “ศักดิ์ปากหมา ทุเรียนปราจีนแท้” เจ้าของสวนทุเรียน 5 ไร่ ในตำบลไม้เค็ด เปิดบทสนทนา
เดชศักดิ์บอกว่า ทุเรียนไม่ชอบน้ำ แต่ขาดน้ำไม่ได้ ถ้าน้ำขัง รากจะเน่า และโตช้า แต่ดินปราจีนบุรีเป็นดินลูกรังแดง ทำให้รากแทรกได้สะดวก น้ำไม่ขัง รากหายใจได้ดี “และแร่ธาตุในดินที่ปราจีนถือว่าดีมาก”
แหล่งปลูกทุเรียนในปราจีนบุรีอยู่ในพื้นที่ 5 อำเภอ คือ อำเภอเมือง กบินทร์บุรี ประจันตคาม ศรีมหาโพธิ และนาดี พื้นที่เหล่านี้สภาพดินชั้นบนเป็นดินร่วนปนทราย ดินชั้นล่างเป็นหินผุและศิลาแลง ทำให้ระบายน้ำสะดวก น้ำไม่ขังในเนื้อดิน การกระจายตัวของธาตุอาหารทั่วถึง ปริมาณน้ำฝนและความชื้นเหมาะสมพอดี




ตำบลไม้เค็ด อยู่ในอำเภอเมือง ที่นี่มีสวนทุเรียนขึ้นชื่อหลายแห่ง เดือนพฤษภาคม-มิถุนายน เป็นหน้าผลไม้ของปราจีนบุรี โดยเฉพาะทุเรียน เท่ากับเป็นฤดูท่องเที่ยวเมืองปราจีน ผู้คนหลั่งไหลมาช็อปและชิมทุเรียนถึงสวน
“ทุเรียนปราจีนดูแลไม่เท่าระยอง ที่นั่นเขาทำเชิงธุรกิจ ใช้ปุ๋ยอย่างดี แต่สวนทุเรียนปราจีนร้อยละ 80 เป็นเกษตรอินทรีย์ ผลผลิตไม่ออกจำนวนมากเหมือนที่ระยอง” เดชศักดิ์บอก
กลับกลายไปว่านี่เป็นจุดเด่น ทุเรียนปราจีนปล่อยให้สุกโดยธรรมชาติ ไม่บ่ม การใช้สารเร่งผลจะทำให้เนื้อทุเรียนต่างจากการปลูกแบบเกษตรปลอดภัย คอทุเรียนจะรู้สึกได้เลย วิถีเกษตรเช่นนี้ทำให้แปลงทุเรียนปราจีนแทบทุกสวนได้รับมาตรฐาน GAP เป็นเกษตรปลอดภัยที่ไม่ใช้ยาฆ่าแมลงและสารเร่งผล
ก่อนจะมาเป็นชาวสวนทุเรียน เดชศักดิ์เป็นพ่อค้าทุเรียนมาก่อน




“ผมเป็นคนนครนายก ภรรยาเป็นคนปราจีน แต่ก่อนผมค้าขายทุเรียน พอดีอาของภรรยาเขาทำทุเรียน เรียกว่าอยู่กับทุเรียนมาตั้งแต่เกิด ผมก็ไปช่วยแบกกระสอบตอนเขาตัดทุเรียน หัดรับทุเรียนก่อน จึงได้เรียนรู้การดูทุเรียนว่าแบบไหนได้อายุควรตัด สักพักอาก็ให้ลองตัด เป็นมีดสาม”
มีดหนึ่ง-กระบี่มือแรก ต้องเป๊ะว่าลูกไหนแก่พอดีตัด เพราะทุเรียนปราจีนไม่มีการบ่ม มีดสองเสี่ยงน้อยลง แต่ก็ถือว่ายากอยู่ดี ส่วนมีดสาม-สุดท้าย ไม่เครียด เพราะทุเรียนแก่ทั้งต้นแล้ว
“ตอนเริ่มทำสวนทุเรียน ก็อยากได้สวนเพิ่มไว้สำหรับส่งให้ลูกค้า สวนแรกที่ผมไปดูแลอยู่ที่กบินทร์บุรี มีทุเรียนประมาณ 200 ต้น อายุประมาณ 10 ปีแล้ว แต่ทุเรียนกำลังจะตาย ผมก็เข้าไปฟื้น ใช้เวลาถึง 4 ปี ตอนนี้ทุเรียนงามมาก และทุเรียนอายุ 14 ปีถือว่าเป็นช่วงที่กำลังให้ผลผลิตที่ดี”
เซียนทุเรียนวัย 44 ปีบอกว่า ถ้าคิดในแง่การลงทุน 4 ปี ถือว่าไม่มีกำไร “แต่ที่นี่คือห้องเรียนของผม ทุกสิ่งที่เป็นความรู้ในการทำงานกับทุเรียนคงได้มาจากการลองผิดลองถูกที่นี่”
นอกจากมีสวนทุเรียนเองแล้ว ประสบการณ์สิบปียังทำให้เดชศักดิ์สามารถเหมาตัดทุเรียนได้หลายสวน และ “คอนซัลท์” ให้สวนทุเรียนอีก 6 แห่ง ทั้งในปราจีนบุรี และนครนายก รวมแล้วนับร้อย ๆ ต้น
การเป็นที่ปรึกษาเรื่องทุเรียนนี่เอง เป็นที่มาของสมญานาม “ศักดิ์ปากหมา” คือเป็นคนพูดจาขวานผ่าซาก ไม่ต้องมัวออมน้ำใจใคร
กลับกลายไปว่านี่เป็นจุดเด่น พอเปิดร้านขายทุเรียน ก็ต่อท้ายอีกนิดว่า “ทุเรียนปราจีนแท้” แค่นี้ก็ไม่มีใครลืมลง




แวะชิมทุเรียนร้าน “ศักดิ์ปากหมา” ได้ที่ตำบลไม้เค็ด อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี
โทร. 061-356-6916 facebook: ร้านศักดิ์ปากหมา-ทุเรียนปราจีนแท้
TAGS #ศักดิ์ปากหมาทุเรียนปราจีนแท้ #ทุเรียนปราจีน #อยู่ดีกินดี #วิถีริมแม่น้ำ #แม่น้ำบางปะกง #แม่น้ำปราจีนบุรี #หาอยู่หากิน #กินตามน้ำ