จอมยุทธ์จาก…กระบี่เดียวดาย
ปฏิทินจันทรคติเป็นสิ่งที่ไม่มีความเชื่อมโยงในชีวิตของคนสมัยนี้
แต่สำหรับ “ป้าริน” การเปลี่ยนของดวงจันทร์แต่ละคืน เป็นเครื่องบอก “น้ำเกิด” หรือ “น้ำตาย” ซึ่งสัมพันธ์กับการหาอยู่หากินกับป่าชายเลน
ป่าจากที่เคยหนาแน่นริมฝั่งน้ำ เหลือน้อยลงเพราะผลจากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางเศรษฐกิจในพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นตลอด 40 ปีนี้สร้าง GDP ให้ประเทศมหาศาล สร้างอาชีพให้คนมากมาย แต่มีราคาที่ต้องจ่ายอย่างแสนแพง ทั้งเนื้อที่ป่าชายเลนที่หดลงทุกปี
ทุกวันนี้บางปะกงมีเนื้อที่ป่าชายเลนจริงๆ เหลือเพียง 125 ไร่ ที่เหลือกระจัดกระจายตามที่ดินส่วนตัว ซึ่งนับวันจะถูกกำจัดให้เหลือน้อยลงอีกเพื่อเลี่ยงปัญหาภาษีที่ดินรกร้าง ความหลากหลายทางชีวภาพลดลง และเสน่ห์ชีวิตชนบทในวันที่งดงาม เหลือเพียงภาพจำผ่านเรื่องเล่าของคนเฒ่า

เรี่ยวแรงแผ่วลงตามอายุ แต่ความรู้เรื่องป่าจากกลับเพิ่มพูน ทุกวันนี้ “ป้าริน” คุณไพริน สว่างอารมณ์ เป็นจอมยุทธ์หนึ่งเดียวในชุมชนคลองหัวจาก ตำบลบางปะกง อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา ที่เลี้ยงตัวตัวยป่าจากจนทุกวันนี้ เป็นเวลากว่า 60 ปี และยังทำหน้าที่สางป่าให้อยู่ในสภาพที่ไม่ตกขโมง
ป้ารินตัดจากกับพ่อมาตั้งแต่เรียนอยู่ประถมสี่ ตอนที่พ่อยังอยู่ ถ้าน้ำลง สองพ่อลูกจะจุดตะเกียงเจ้าพายุเข้าไปตัดจาก พอน้ำขึ้นก็เข็นเรือเข้าไปขนจากออกมา “ตอนนี้จะเข้าไปตัดจากบ่อยแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกาย แต่ก่อนฉันแข็งแรง น้ำท่วมก็ยังไปตัด ไปคนเดียว เดี๋ยวนี้หัวใจเต้นไม่ค่อยดี ก็ไปเมื่อไหว”



ป้ารินเหมาทั้งตัดจากและเย็บตับจาก สมัยที่ร่างกายแข็งแรง สามารถนั่งเย็บตับจากตั้งแต่พลบค่ำได้ถึงตีหนึ่งตีสอง แต่สังขารในวัย 61 ปีในวันนี้ สู้ได้แค่ห้าทุ่ม “หลังคาบ้านนี้ก็มุงจาก มุงมาตั้งแต่ปี 2552 ไม่มีมอด ไม่มีปลวก”
คนบ้านหัวจาก ไม่เหมือนคนบ้านล่าง คนที่นี่ไม่ทำประมง แต่ทำนา เมื่อมาถึงวันที่ไม่มีที่นาแล้ว ป่าชายเลนก็เป็นที่พึ่งเดียวของป้าริน ดังนั้นเมื่อเสียเวลาเข้าป่า ป้ารินไม่ได้เล็งแค่เรื่องการตัดจาก แต่จะวางกระป๋องดักปูแสมไว้จุดที่มีรูปู คนที่พี่งพาป่ามาทั้งชีวิต มองแวบเดียวก็จะเห็นดินที่พูนเหนือรูพร้อมก้อนขี้ปูที่บอกขนาดตัวที่ต้องการ นี่คือจุดที่วางกระป๋องดักปู กระป๋องหนึ่งดักได้แค่ตัวเดียว “ถ้าเราไปตัดจากช่วงน้ำตาย ดินจะแห้ง ปูก็ไม่ขึ้น แต่ถ้าฝนตก น้ำท่วม ดินเปียก อย่างนั้นดักได้เลย”

ปูแสมส่งขายกิโลกรัมละร้อยกว่าบาท ป้ารินจะดักแล้วเก็บใส่โอ่งไว้ พอได้ประมาณสิบกิโล ก็ส่งพ่อค้าที่ระยองที่นำไปดองเค็มส่งต่อร้านขายส้มตำ “ตอนนี้คนดักปูในป่าจากก็เหลือฉันคนเดียว ไม่มีคนมาแย่ง นอกจากกลางคืนตอนน้ำเกิด คนไปจับกัน ไม่ได้วางกระป๋อง แต่ถ้าเราวางกระป๋อง เราจะรู้ว่าปูเนื้อแข็ง หรือไม่แข็ง บางทีจับได้มาตัวเล็กไป เราก็ปล่อย”
เหยื่อดักปูแสมมีหลายอย่าง บางแห่งใช้หัวไชโป๊ว แต่ป้ารินใช้ปลาร้า “การดักปูก็ต้องดูลมเพื่อให้กลิ่นปลาร้าเข้าไปรูปู ถ้าอยากได้ปูตัวใหญ่ก็ต้องมุดเข้าโพรงไม้” หมายถึงโพรงต้นไม้
ลูกจากก็เป็นรายได้อีกอย่างหนึ่งของป้าริน ลูกสดราคากิโลกรัมละ 150 บาท ถ้าเชื่อมแล้ว แบ่งใส่ถุงขาย ถุงละ 20 บาท “ดอกจากจะดกช่วงกลางปี (กรกฎาคม) พอถึงช่วงแห่หลวงพ่อ (พฤศจิกายน) น้ำจืดก็จะมา ก็ได้เวลาตัดลูกจาก”



ยอดดอกกินเป็นยา ใบอ่อนขนาดเล็กใช้ทำข้าวต้มหาง ใบแก่ก็ทำขนมจาก กระดูกคือส่วนตรงกลางที่เหลือจากการลิดใบทั้งสองด้าน ก็เอามามัดรวมกันเป็นไม้กวาด

“คนตัดจากเป็น เมื่อตัดแล้วต้อง ‘ล้างสะโพก’ หมายถึง การลิดใบเก่าที่เคยตัดออกให้หมด แล้วต้องไม่ตัดต่ำเกินไป ถ้าไม่ล้างสะโพกจะทำให้จากโทรม แล้วทำให้จากจ้อนลง” จ้อน เป็นภาษาถิ่น หมายถึง เตี้ยลง ต้นจากที่ล้างสะโพกได้ดี จะสามารถวนกลับมาตัดใหม่ได้ภายในหนึ่งเดือน
“ต้นจากนี่ถ้าไม่ตัดมันจะแน่น ไม่งาม คนที่มีต้นจากเขาก็มาถามว่าเมื่อไหร่จะไปตัดจากที่บ้านเขาสักทีล่ะ ตัดเพื่อไม่ให้มันรก ไม่ให้ตกโขมง ทำให้มันเรี่ยม เจ้าของที่เขาก็ชอบ ป่าจากที่ไม่มีใครไปยุ่งจะดูไม่ได้เลย ทางจากมันจะแตกแดงแจ๋ ไม่งาม ตอนนี้ใครมีป่าจากเหลือ เขายกสัมปทานให้ฉันหมด เพราะไม่มีใครทำแล้ว”
“เข้าป่าแล้วมันสบายใจ เหมือนเข้าวัด มันสงบ เงียบ สมองก็โปร่ง” ปิดท้ายจากตำนาน “คนกับจาก” ที่ยังคงอยู่คู่บางปะกง
เรื่องราวที่เกี่ยวข้อง: จากไม่จางที่บางปะกง EP1
TAGS #คนกับจาก #จอมยุทธ์จาก #กระบี่เดียวดาย #อยู่ดีกินดี #วิถีริมแม่น้ำ #บางปะกง #หาอยู่หากิน #น้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า