“เคย” ดัชนีวัดความอยู่ดีกินดีของชีวิตและธรรมชาติ

เคยเป็นตัวชี้วัดความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศชายฝั่งและทะเล มีความสัมพันธ์ระหว่างเคยกับความหลากหลายทางชีวภาพ การประมงความอยู่ดีกินดีของชุมชน
กุ้งเคย

ร้านค้าออนไลน์หลายเพจมักโฆษณาอาหารตากแห้งที่แพคใส่ถุงว่า “กุ้งเคย” แต่เคยก็คือเคย กุ้งก็คือกุ้ง  “เคย” ไม่เคยเป็นกุ้ง ทว่าก็เป็นที่เข้าใจดีว่า ถ้าไม่อาศัยคำว่ากุ้งมาช่วย อาหารแบบเคยตากแห้งอาจไม่คุ้นเคยของใครหลายคน

เคยกับกุ้งเป็นสัตว์ทะเลกลุ่มหนึ่งที่มีวิวัฒนาการร่วมกัน และอยู่ในไฟลัมย่อยกลุ่มครัสเตเชียน (Crustacea) เหมือนกัน ครัสเตเชียน หมายถึง สัตว์น้ำประเภทกุ้ง กั้ง ปู ที่มีเปลือกหุ้มตัว ลำตัวเป็นปล้อง มีระยางก์ยื่นออกมาเป็นคู่ (หนวด ขากรรไกร ขาเดิน ขาว่ายน้ำ) เมื่อโตขึ้นจะสลัดเปลือกเดิมแล้วสร้างเปลือกใหม่

เคยแยกแยะจากกุ้งได้ไม่ยาก นอกจากตัวเล็กกว่ากุ้งแล้ว กุ้งยังสามารถแยกส่วนที่เป็นคางออกจากส่วนที่เห็นหัว แต่เคยไม่มีคาง หัวกับตัวต่อกันเลย หัวของกุ้งจะมีแผ่นปิดเหงือกแต่เคยไม่มี กุ้งมีกรีแหลมตรงหัว (กินแล้วแทงปาก) แต่ส่วนหัวของเคยเกลี้ยงเกลา

นักวิทยาศาสตร์ทางทะเลกล่าวเสมอว่า เคยคือตัวชี้วัดความสมบูรณ์ของป่าชายเลนรวมถึงท้องทะเล อิทธิพลของน้ำที่ไหลมาจากแม่น้ำลำคลองที่ออกสู่ทะเลมีความสมบูรณ์ บริเวณปากแม่น้ำที่มีเคยชุกชุมย่อมหมายถึงนิเวศริมชายฝั่งคุณภาพดีมีแร่ธาตุสารอาหาร สัตว์น้ำวัยอ่อนหลายชนิดก็เติบโตได้เพราะเคยเป็นแหล่งอาหาร ในขณะที่เคยอาศัยแพลงก์ตอนพืชเป็นอาหาร หากระบบนิเวศคุณภาพดี เคยขยายพันธุ์จำนวนมากหลังฤดูฝน

ที่บางปะกง เมื่อเริ่มเข้าหน้าฝน ในช่วงน้ำตายหรือน้ำนิ่ง (ช่วงที่ความสูงของน้ำขึ้นกับน้ำลงมีระยะต่างกันน้อยมาก) ตั้งแต่ 5 ค่ำไปจนถึง 9 ค่ำ เคยจะอยู่รวมกลุ่มกันในป่าชายเลน ไม่เคลื่อนที่ไปไหนไกลประมาณ 3 เดือน คนประมงจะเอาเรือออกไปแถวริมป่าชายเลนแต่เช้ามืดเพื่อไปรอช้อนเคย โดยสังเกตจากความขุ่นหรือใสของน้ำ ถ้าน้ำขุ่นก็แปลว่าเคยลอยตัวเหนือหน้าดินแล้วสามารถช้อนได้ ถ้าน้ำใสก็ต้องรอเพราะเคยยังไม่ขึ้น วันไหนเคยเยอะ หรือ “เคยหนา” จะมองเห็นผืนน้ำเต้นกระเพื่อมได้ชัด เมื่อช้อนเคยเสร็จแต่ละรอบ ก็ต้องรอให้น้ำใหม่ในรอบหน้า 

ช่วงน้ำใหญ่หรือน้ำเกิด (ขึ้น 15 ค่ำ และแรม 15 ค่ำ น้ำทะเลมีการขึ้นและลงมากและเร็ว) เคยจะเคลื่อนออกไปตามกระแสน้ำไกลออกจากฝั่งไปราว 1 กิโลเมตร ถึงตอนนั้น เคยก็จะเป็นอาหารของสัตว์ใหญ่ที่กินแพลงก์ตอน เช่น วาฬ กระเบนราหู รวมทั้งนกทะเลบางประเภทที่กินเคยเพียงอย่างเดียว

คนประมงบางปะกงมีอาหารและรายได้จากการช้อนเคยเพียงฤดูกาลเดียวคือต้นฤดูฝน ต่างจากการช้อนเคยในภาคใต้หาได้เรื่อย ๆ ในป่าชายเลนแทบทุกวันตั้งแต่เดือน 5 – เดือน 7 (ยกเว้นช่วงฝนแล้ง) เพราะหน้าฝนยาว พอถึงเดือน 11 เคยจะขึ้นหนา (มาก) แถวชายฝั่งเพราะเป็นช่วงหมดฤดูมรสุมที่คลื่นลมแรง

เคยที่คนบางปะกงรู้จัก ได้แก่ เคยตาดำ เคยตาแดง เคยนุ่น สามชนิดนี้ตัวยาวแค่หนึ่งเซนติเมตรกว่า ๆ เปลือกบางใส เนื้อยุ่ยเหมาะทำกะปิ และอีกชนิดหนึ่งเรียกว่า ไอ้โก่ง คือตัวใหญ่แบบน้อง ๆ กุ้ง ชนิดหล้งนี้มักจะต้มและตากแห้งไว้ทำอาหารแทนกุ้งได้สบาย

เคยมีอายุไม่เกิน 1 ปี ช่วงเวลาสามร้อยกว่าวันของสัตว์น้ำน้อยนิดนี้ ได้มอบความอยู่ดีกินดีให้แก่ทุกชีวิตที่อยู่รอบตัวมันเอง 

ยิ่งยศ ฐาปนกุลศักดิ์
ผู้เขียน

TAGS #เคย #ดัชนีชี้วัดความอยู่ดีกินดีของชีวิตและธรรมชาติ #เคยตากแห้ง #กะปิเคย #อยู่ดีกินดี #วิถีริมแม่น้ำ #บางปะกง #หาอยู่หากิน #น้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า

แหล่งอ้างอิง

https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A2

Share:

ท่าข้าม จุดหมายเชิงนิเวศปากแม่น้ำบางปะกง ชุมชนอาหารพื้นบ้านที่ไม่ควรพลาด ลิ้มรสปลากดหัวอ่อนหมกกะปิ แกงส้มหน่อไม้ดอง
โลมาอิรวดีเป็นสัตว์ทะเลหายากที่อาศัยในแม่น้ำบางปะกง กำลังเผชิญภัยคุกคามจากการทำประมงและการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อม เรียนรู้การอนุรักษ์และบทบาทของโลมาในระบบนิเวศปากแม่น้ำ
ปากแม่น้ำบางปะกง แหล่งน้ำกร่อยที่เป็นถิ่นอาศัยของโลมาอิรวดี โลมาหลังโหนก โลมาหัวบาตรหลังเรียบ และวาฬบรูด้า
คนบางปะกงใช้ความรู้จากความเข้าใจธรรมชาติเพื่อจัดการชีวิตทั้งเรื่องการอยู่การหากิน โดยไม่ขืนครรลองธรรมชาติ ภูมิปัญญานี้เรียกว่า “นาขาวัง”
“เคยแห้ง” ก็ทำได้แบบนั้น เคยตากแห้งกลิ่นหอมนุ่ม ไม่หอมแรงเหมือนกุ้งแห้ง เคยแทนที่กุ้งทุกอย่างไม่ได้ก็จริง

ส่งข้อความถึงเรา

Tags
โลมาอิรวดีเป็นสัตว์ทะเลหายากที่อาศัยในแม่น้ำบางปะกง กำลังเผชิญภัยคุกคามจากการทำประมงและการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อม เรียนรู้การอนุรักษ์และบทบาทของโลมาในระบบนิเวศปากแม่น้ำ
ปากแม่น้ำบางปะกง แหล่งน้ำกร่อยที่เป็นถิ่นอาศัยของโลมาอิรวดี โลมาหลังโหนก โลมาหัวบาตรหลังเรียบ และวาฬบรูด้า แต่จำนวนโลมาอิรวดีลดลงเหลือเพียง 22 ตัว จากภัยคุกคามทางสิ่งแวดล้อม การฟื้นฟูป่าชายเลน
คนบางปะกงใช้ความรู้จากความเข้าใจธรรมชาติเพื่อจัดการชีวิตทั้งเรื่องการอยู่การหากิน โดยไม่ขืนครรลองธรรมชาติ ภูมิปัญญานี้เรียกว่า “นาขาวัง”
ประมงพื้นบ้านมีความรู้ในการทำปะการังเทียมมานานหลายพันปีแล้ว องค์ความรู้นี้พบเห็นได้ในทะเลแถบอินโดแปซิฟิก ชาวประมงจะใช้โครงสร้างไม้ไผ่ และใบปาล์ม หรือทางมะพร้าว สะกันไว้เป็นห้องๆ เพื่อดึงดูดสัตว์น้ำ อุปกรณ์แบบนี้ถ้าเป็นคนประมงบ้านเราแถวอ่าวไทยตอนบน อย่างเช่น คนบางปะกง
จอมยุทธ์หนึ่งเดียวในชุมชนคลองหัวจาก ตำบลบางปะกง อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา ที่เลี้ยงตัวด้วยป่าจากจนทุกวันนี้ เป็นเวลากว่า 60 ปี และยังทำหน้าที่สางป่าให้อยู่ในสภาพที่ไม่ตกขโมง
ป่าชายเลนบริเวณปากแม่น้ำบางปะกงมีพันธุ์ไม้มากกว่า 80 ชนิด แต่ชนิดที่คนใช้ประโยชน์ได้แทบทุกส่วน คือต้นจาก สมัย 40-50 ปีก่อน จากเป็นพืชที่ผูกพันกับทุกชีวิต อาหาร