ทุกวันเพ็ญเดือนสิบ ที่วัดพิมพาวาสจะมีพุทธศาสนิกชนมาร่วมกันประกอบพิธี “ตักบาตรน้ำผึ้ง”
ประเพณีดั้งเดิมของชาวมอญที่ทั่วประเทศเหลือสืบทอดเพียงไม่กี่แห่ง ตักบาตรน้ำผึ้งของที่นี่ทำเป็นเทศกาล 3 วัน เหล่าอุบาสก อุบาสิกาจะมาทำวัตรเช้า-เย็นและฟังธรรมเทศนากันทั้ง 3 วัน เริ่มตั้งแต่ขึ้น 14 ค่ำ 15 ค่ำ และแรม 1 ค่ำ แต่วันถวายน้ำผึ้งคือขึ้น 15 ค่ำ
15 ค่ำ เดือน 10 ในปี 2567 นี้ ตรงกับวันอังคารที่ 17 กันยายน

วัดพิมพาวาส อยู่ในตำบลพิมพา อำเภอบางปะกง วัดเก่าแก่อายุกว่าร้อยปีแห่งนี้อยู่ริมคลองพระยาสมุทร (ช่วงกลางคลองและปลายคลอง มักเรียกว่าคลองนิยมยาตรา) คลองเส้นนี้แยกจากคลองประเวศบุรีรมย์ไปบรรจบคลองฉะบังและคลองต้นโพธิ์ ความยาว 7 กิโลเมตรเศษ ระยะทางส่วนใหญ่ของคลองเป็นเส้นแบ่งเขตการปกครองระหว่างอำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ กับอำเภอบ้านโพธิ์และอำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา

ชุมชนสองฝั่งคลองแต่คนละจังหวัดนี้เกี่ยวดองกัน เพราะในสมัยรัชกาลที่ 5 ประมาณ พ.ศ. 2430–2435 พระยาสมุทบุรานุรักษ์ (สิน) ผู้ว่าราชการเมืองสมุทรปราการและเมืองฉะเชิงเทรา เป็นแม่กองในการขุดคลองนี้ โดยขอแรงคนมาช่วยขุดและใช้เวลาขุดนานถึง 3 ปี เมื่อแล้วเสร็จจึงชักชวนคนจากบ้านบางพระ อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา กับคนมอญจากบ้านบางเหี้ย บางเพรียง และคลองด่าน จังหวัดสมุทรปราการ ที่ต้องการหาที่ทำกินใหม่ที่แหล่งน้ำอุดมสมบูรณ์ เข้ามาลงหลักปักฐาน นานวันก็มีพ่อค้าแม่ค้ามอญจากฝั่งสมุทรปราการพายเรือมาขายของพวกหม้อไหดินเผา ถูกใจพื้นที่ซ้ำยังมีคนมอญมาตั้งหลักแหล่งอยู่ก่อนแล้ว จึงย้ายเข้ามาอยู่ในตำบลพิมพา ริมคลองพระยาสมุทรจึงกลายเป็นชุมชนมอญคล้ายกับพระประแดงในสมุทรปราการ
ผู้คนไปอยู่ที่ไหนก็พาวัฒนธรรมของตัวเองไปด้วย เมื่อริมคลองพระยาสมุทรมีชาวมอญอาศัยอยู่กันมาก วัดพิมพาวาสก็ถูกสร้างขึ้น เดิมมีวัดเดียว แต่คนเก่าแก่ในชุมชนเล่าว่า ราวปี 2500 เกิดเหตุทะเลาะกัน เลยแบ่งเป็นสองวัด คือวัดพิมพาวาส (ใต้) ซึ่งเป็นวัดแรกสร้างตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 เป็นสายธรรมยุติ กับวัดพิมพาวาส (เหนือ) สังกัดมหานิกาย ซึ่งพระสงฆ์ของทั้ง 2 วัดก็เป็นคนเชื้อสายไทย

คุณลือชัย พรหมศรี คนหมู่ 3 ในตำบล เป็นอุบาสกที่มาช่วยงานวัดพิมพาวาส (ธรรมยุติ) เป็นประจำ เล่าให้ฟังว่าการแยกวัดเป็นเรื่องจริงจังถึงขนาดแบ่งโบสถ์แบ่งศาลากันเลย

“วัดเดิมมีพื้นที่ 16 ไร่ เขาก็แบ่งคนละครึ่ง วัดพิมพาวาส-เหนือ เอาศาลาไป ใช้วิธิขุดร่องเสาแล้วเลื่อนศาลาไปสร้างในที่ใหม่ โบสต์ก็สร้างใหม่ ส่วนวัดพิมพาวาส-ใต้ (ธรรมยุติ) เก็บโบสถ์ไว้ วัดสองแห่งนี้ห่างกันแค่กำแพงปูนกั้น”

แม้จะเป็น “วัดมอญ” ทั้งสองแห่ง แต่เมื่อเวลาผ่านไป วัดที่ยังคงประเพณีมอญเก่า ๆ ไว้ รวมถึงดึงดูดญาติโยมที่สืบเชื้อสายมอญมาทำบุญสุนทาน ก็คือวัดพิมพาวาส สายธรรมยุติ หรือวัดใต้ เช่น ประเพณีแห่ธงตะขาบ ที่เป็นเทศกาลในช่วงสงกรานต์ และบุญตักบาตรน้ำผึ้ง “พระท่านจะเตรียมบาตรและหงายฝาบาตรไว้ มีหม้อโอสองใบวางไว้เคียงกัน พอแปดโมงเช้าก็เริ่มพิธี” พิธีจัดที่ศาลา ของที่ร่วมในพิธีนี้มีสามอย่าง คือ น้ำผึ้ง น้ำตาลทราย และข้าวต้มมัด น้ำผึ้งจะใส่ในบาตร คนที่นำมาถวายทั้งขวดก็วางในหม้อโอ น้ำตาลทรายเทใส่ฝาบาตรหรือหม้อโอที่อยู่ข้างกัน ส่วนข้าวต้มมัดและอาหารอื่น ๆ ใส่ภาชนะไว้อีกด้านของศาลา



ชาวมอญเชื่อว่าการตักบาตรน้ำผึ้งเป็นการทำบุญที่ได้อานิสงส์มาก เพราะน้ำผึ้งจัดเป็น 1 ในเภสัชทาน 5 ชนิด (น้ำผึ้ง เนยใส เนยข้น น้ำมัน และน้ำอ้อย) เป็นยาบำรุงร่างกาย ทั้งใช้เข้าเครื่องยารักษาโรค พระสงฆ์พึงฉันได้ การถวายน้ำตาลทรายก็มาจากเหตุผลนี้เพราะถือว่ามาจากน้ำอ้อย อีกทั้งวัดยังสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ทั่วไป ส่วนข้าวต้มมัดก็ถวายเพื่อให้พระสงฆ์ได้ฉันพร้อมน้ำผึ้ง (พุทธประวัติมีเรื่องเล่าที่มาการถวายน้ำผึ้งแด่พระภิกษุ คลิกอ่านได้ในเพจ ประเพณีท้องถิ่นในประเทศไทย ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) https://rituals.sac.or.th/detail.php?id=48)
ในกูเกิ้ลบอกว่า ประเพณีตักบาตรน้ำผึ้งนิยมปฏิบัติในหลายจังหวัดของภาคกลางที่มีชุมชนชาวมอญ เช่น สมุทรสาคร พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี และนนทบุรี แต่จังหวัดเหล่านี้ก็มีประชากรใหม่ ๆ เข้าไปตั้งหลักแหล่ง ชุมชนมอญแท้ ๆ แทบหายไปเกือบหมด คนหาย ประเพณีก็สูญหายไปด้วย แม้แต่ในตำบลพิมพาที่เป็นชุมชนมอญเก่าแก่ ทุกวันนี้ก็เต็มไปด้วยคนหลายเชื้อชาติ
ประเพณีตักบาตรน้ำผึ้งยังคงอยู่ได้อาจเป็นเพราะวัดพิมพาวาส สายธรรมยุติ มีความเข้มแข็ง เป็นศูนย์รวมใจให้คนตำบลพิมพามีศรัทธาสืบทอดเรื่องราวดีดีในอดีต
ขอบคุณภาพประกอบ
https://www2.chachoengsao.go.th/tradition/detail/4
TAGS #ตักบาตรน้ำผึ้งวัดพิมพาวาส #ตักบาตรน้ำผึ้งบางปะกง #บุญตักบาตรน้ำผึ้ง #อยู่ดีกินดี #วิถีริมแม่น้ำ #บางปะกง #หาอยู่หากิน #พายเรือทวนน้ำ #อยู่ดีกินดีที่บางปะกง