นาขาวัง วิถีที่ไหลไปกับเวลาและวารี

คนบางปะกงใช้ความรู้จากความเข้าใจธรรมชาติเพื่อจัดการชีวิตทั้งเรื่องการอยู่การหากิน โดยไม่ขืนครรลองธรรมชาติ ภูมิปัญญานี้เรียกว่า “นาขาวัง”
อำเภอบางปะกงอยู่ช่วงปลายแม่น้ำบางปะกง ระบบนิเวศที่นี่มีทั้งน้ำจืด น้ำกร่อย และน้ำเค็ม เนิ่นนานมาแล้วที่คนบางปะกงใช้ความรู้จากความเข้าใจธรรมชาติเพื่อจัดการชีวิตทั้งเรื่องการอยู่การหากิน โดยไม่ขืนครรลองธรรมชาติ ภูมิปัญญานี้เรียกว่า “นาขาวัง”

อำเภอบางปะกงอยู่ช่วงปลายแม่น้ำบางปะกง ระบบนิเวศที่นี่มีทั้งน้ำจืด น้ำกร่อย และน้ำเค็ม เนิ่นนานมาแล้วที่คนบางปะกงใช้ความรู้จากความเข้าใจธรรมชาติเพื่อจัดการชีวิตทั้งเรื่องการอยู่การหากิน โดยไม่ขืนครรลองธรรมชาติ ภูมิปัญญานี้เรียกว่า “นาขาวัง”

คนบางกะปงยุคอนาล็อกอาจเคยกินข้าวพันธุ์พื้นเมืองที่ชอบดินเค็ม บางคนอาจเคยเห็นการขุดร่องเป็นคันนากว้างเพื่อปลูกข้าว ครั้นพอถึงหน้าแล้งก็ปล่อยน้ำเค็มเข้าเพื่อเลี้ยงสัตว์น้ำ นี่คือลักษณะการทำเกษตรร่วมกันแบบนาขาวัง แต่รูปแบบชีวิตที่อิงธรรมชาติแบบนี้แทบหาไม่ได้แล้ว นับตั้งแต่พื้นที่ลุ่มน้ำบางปะกงตอนปลายน้ำเปลี่ยนไปเป็นพื้นที่อุตสาหกรรมมาตลอด 40 ปีนี้

ที่ยังเหลือให้เห็นเวลานี้มีอยู่เพียงแห่งเดียวในบางปะกง คือบ้านเขาดิน

“เขาดิน” เป็นตำบลหนึ่งในอำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นพื้นที่ราบลุ่มที่ขนานกับแม่น้ำบางปะกง เขาดินมีน้ำจืดระยะสั้นแค่ 4-5 เดือน ที่เหลือ 8 เดือนเป็นช่วงน้ำกร่อยและน้ำเค็ม ตำบลเขาดินมี 7 หมู่บ้าน ในจำนวนนี้ 3 หมู่บ้านอยู่ริมน้ำตรงที่ลำน้ำตวัดโค้งพอดี หนึ่งในนั้นคือบ้านเขาดิน (หมู่ที่ 7) ซึ่งเป็นชุมชนที่เหลือเพียงแห่งเดียวบางปะกงที่ไม่ได้ทำประตูกั้นน้ำเค็มเหมือนอย่างที่อื่นๆ เขาดินมีน้ำจืดระยะสั้นแค่ 4-5 เดือน ที่เหลือ 8 เดือนเป็นช่วงน้ำกร่อยและน้ำเค็ม การอยู่กับน้ำเค็มนาน ๆ โดยไม่ปิดกั้นน้ำขึ้นน้ำลง หรือการเข้ามาของน้ำเค็ม ทำให้ชาวบ้านเรียนรู้กลไกธรรมชาติจนสามารถสร้างความมั่งคงทางอาหาร

ชาวบ้านจะทำคันนาโดยการขุดร่องน้ำล้อมแปลงนา ความลึกประมาณเมตรครึ่งถึงสองเมตร กว้างประมาณสองเมตรครึ่ง ความกว้างนั้นยิ่งกว้างยิ่งดี จะช่วยให้ด้านล่างคูน้ำมีออกซิเจนมากขึ้นเหมาะกับตอนที่เลี้ยงสัตว์น้ำในช่วงน้ำเค็ม ขอบคันนาที่ลึกเป็นร่องคือความหมายของ “ขาวัง” จากนั้นก็ทำประตูน้ำเพื่อความสะดวกในการควบคุมน้ำเข้า-ออกตามต้องการ ด้านในของประตูติดตาข่ายตาถี่เพื่อกรองลูกสัตว์น้ำไว้ใน “ขาวัง” ตอนที่ปล่อยน้ำออก

อำเภอบางปะกงอยู่ช่วงปลายแม่น้ำบางปะกง ระบบนิเวศที่นี่มีทั้งน้ำจืด น้ำกร่อย และน้ำเค็ม เนิ่นนานมาแล้วที่คนบางปะกงใช้ความรู้จากความเข้าใจธรรมชาติเพื่อจัดการชีวิตทั้งเรื่องการอยู่การหากิน โดยไม่ขืนครรลองธรรมชาติ ภูมิปัญญานี้เรียกว่า “นาขาวัง”
ประตูกั้นน้ำเข้าที่นา

เมื่อถึงช่วงหน้าฝนที่มีน้ำจืดมาก ชาวบ้านจะเปิดประตูให้น้ำเข้าเพื่อล้างดินให้จืด ซึ่งมักใช้เวลาไม่น้อยกว่าสองสัปดาห์ การขุดร่องน้ำรอบแปลงนามีส่วนสำคัญที่ช่วยจัดการความเค็มที่ตกค้างในดิน เพราะน้ำเค็มจะอยู่ต่ำกว่าน้ำจืด การเปิดให้น้ำจืดเข้ามาล้างดินทำให้ความเค็มที่ตกค้าง ไหลไปรวมกันในร่องหรือคูน้ำซึ่งอยู่ต่ำกว่า เมื่อเปิดน้ำออก ความเค็มก็ถูกระบายออกไปด้วย เมื่อข้าวอายุได้ 30 วัน ก็จะปล่อยกุ้งก้ามกราม หรือปลาไปเลี้ยงร่วมในแปลงนาด้วย

ทุกวันนี้เขาดินมีชื่อในการปลูกข้าวพันธุ์ปทุมธานี 1 หรือ “หอมปทุม” ซึ่งเป็นพันธุ์ข้าวที่ชอบดินเค็มนิด ๆ และได้ปุ๋ยธรรมชาติจากตะกอนแม่น้ำกับเปลือกกุ้งที่ลอกคราบทิ้งไว้ ซึ่งเป็นผลจากภูมิปัญญาในการจัดการดินและน้ำอย่างเหมาะสม

ก่อนเกี่ยวข้าว สัตว์น้ำก็โตได้ขนาด สามารถจับขายได้ ส่วนที่ยังไม่ได้ขนาดก็เลี้ยงต่อ เมื่อข้าวอายุได้ 120 วัน (ข้าวหอมปทุมอายุเกี่ยวประมาณ 115 วัน) จะทำการเก็บเกี่ยว ข้าวที่ปลูกในนาขาวังจะให้ผลผลิตต่อไร่สูง เพราะอุดมด้วยธาตุอาหารที่สะสมอยู่ในดินจากการย่อยสลายของซากพืชและมูลสัตว์ ข้าวคุณภาพดี เพราะดินที่มีความเค็มเล็กน้อยทำให้หญ้าหรือพืชอื่น ๆ ไม่สามารถโตได้ ข้าวจึงมีสิ่งเจือปนน้อย ร่องน้ำที่เป็นคันนาก็ช่วยในตอนเก็บเกี่ยว เพราะทำให้พื้นนาแห้ง ข้าวที่เก็บเกี่ยวมีความชื้นต่ำ กลายเป็นข้าวคุณภาพเพราะปัจจัยต่าง ๆ

ปูทะเลจะติดเข้ามาในนาตอนเปิดประตูน้ำเข้านาขาวัง
ปูทะเลจะติดเข้ามาในนาตอนเปิดประตูน้ำเข้านาสวน

หลังเก็บเกี่ยวข้าว น้ำเค็มจะหนุนเข้ามาตามลำน้ำซึ่งเป็นช่วงหน้าแล้ง ก็จะปล่อยให้น้ำเค็มเข้านาขาวัง ทิ้งไว้ประมาณหนึ่งสัปดาห์ ตอนที่ปล่อยน้ำเค็มเข้ามาก็มักจะได้หอยกะพัง หอยกะพง และปูทะเล ติดเข้าด้วย น้ำเค็มที่เข้ามาในนาขาวังยังช่วยย่อยสลายฟางข้าวที่ทำให้เกิดหนอนแดง ไรแดง สัตว์หน้าเลน และแพลงก์ตอนสัตว์ ถึงตอนนี้อาหารก็พร้อมในบ่อ ได้เวลาปล่อยลูกพันธุ์สัตว์น้ำที่สามารถเลี้ยงร่วมกันได้ เช่น กุ้ง ปูทะเล ปลาน้ำกร่อย-น้ำเค็มพวก ปลากะพงขาว ปลาหมอเทศ นาขาวังจึงเป็นการเกษตรสองระบบที่สร้างรายได้หมุนเวียนตลอดทั้งปี

อำเภอบางปะกงอยู่ช่วงปลายแม่น้ำบางปะกง ระบบนิเวศที่นี่มีทั้งน้ำจืด น้ำกร่อย และน้ำเค็ม เนิ่นนานมาแล้วที่คนบางปะกงใช้ความรู้จากความเข้าใจธรรมชาติเพื่อจัดการชีวิตทั้งเรื่องการอยู่การหากิน โดยไม่ขืนครรลองธรรมชาติ ภูมิปัญญานี้เรียกว่า “นาขาวัง”
กุ้งแม่น้ำ

การไม่ฝืนธรรมชาติ แต่ใช้ความรู้ในการจัดการกับกลไกธรรมชาติ คือวิถีเกษตรยั่งยืน

TAGS #นาขาวัง #บ้านเขาดิน #อยู่ดีกินดี #วิถีริมแม่น้ำ #บางปะกง #หาอยู่หากิน #อยู่ดีกินดีที่แม่น้ำบางปะกง #น้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า

อ้างอิง

มูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ http://agrinature.or.th/

.

ภาพประกอบจาก

https://www.ajourneyinspiredbytheking.org/th/knowledge/local-knowledge-detail.php?id=28

https://www.technologychaoban.com/bullet-news-today/article_185704

Share:

ขนมไทย ตั้งแต่โบราณแล้วใช้น้ำตาลโตนดทั้งนั้น หรือขนมทุกอย่างสมัยนี้ที่ใช้กะทิ เข้ากับน้ำตาลโตนดทั้งนั้น หรือขนมที่หวานด้วยการโรยหน้าอย่างพวกนางเล็ด
ย้อนรอย ตำนานเพลงบางปะกง ที่ครูนคร มังคลายน แต่งขึ้นในปี
ค้นพบเรื่องราว "วัดเมืองแมด" อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา วัดเก่าแก่สมัยต้นรัตนโกสินทร์
ลิ้มลองกะปิเคยบางปะกงเกรดพิเศษ (550ก.) จาก 'กินดีคราฟท์' ทำจากเคยแดงแท้

ส่งข้อความถึงเรา

Tags
NCDs กะปิสองคลอง กะปิเคย กินดีคราฟท์ กินตามน้ำ ของดีบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา ตักบาตรน้ำผึ้ง ต้นจาก ที่นี่บ้านเรา ทุเรียนปราจีน ทุเรียนพันธุ์ไหนอร่อยที่สุด ธรรมชาติ น้ำตาลโตนด น้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า บั้งไฟฉะเชิงเทรา บางปะกง ป่าจาก ป่าชายเลน พระยาสมุทบุรานุรักษ์ พายเรือทวนน้ำ มอญ ยั่งยืน ยิ่งยศ ฐาปนกุลศักดิ์ รัชกาลที่ 5 ลาลูแบร์ วัด วัดพิมพาวาส วิถีริมแม่น้ำ ศักดิ์ปากหมา ศักดิ์ปากหมาทุเรียนปราจีนแท้ สยบเบาหวานด้วยรสขมของมะระขี้นก หลวงพ่อโสธร หาอยู่หากิน อยู่ดีกินดี อยู่ดีกินดีที่แม่น้ำบางปะกง เคย เดชศักดิ์ บุญทาสิน แชร์โลมา แม่น้ำ แม่น้ำบางปะกง แม่น้ำปราจีนบุรี โลมาหัวบาตร โลมาอิรวดี ใบจาก
โลมาอิรวดีเป็นสัตว์ทะเลหายากที่อาศัยในแม่น้ำบางปะกง กำลังเผชิญภัยคุกคามจากการทำประมงและการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อม เรียนรู้การอนุรักษ์และบทบาทของโลมาในระบบนิเวศปากแม่น้ำ
ปากแม่น้ำบางปะกง แหล่งน้ำกร่อยที่เป็นถิ่นอาศัยของโลมาอิรวดี โลมาหลังโหนก โลมาหัวบาตรหลังเรียบ และวาฬบรูด้า แต่จำนวนโลมาอิรวดีลดลงเหลือเพียง 22 ตัว จากภัยคุกคามทางสิ่งแวดล้อม การฟื้นฟูป่าชายเลน
เคยเป็นตัวชี้วัดความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศชายฝั่งและทะเล มีความสัมพันธ์ระหว่างเคยกับความหลากหลายทางชีวภาพ การประมงความอยู่ดีกินดีของชุมชน
ประมงพื้นบ้านมีความรู้ในการทำปะการังเทียมมานานหลายพันปีแล้ว องค์ความรู้นี้พบเห็นได้ในทะเลแถบอินโดแปซิฟิก ชาวประมงจะใช้โครงสร้างไม้ไผ่ และใบปาล์ม หรือทางมะพร้าว สะกันไว้เป็นห้องๆ เพื่อดึงดูดสัตว์น้ำ อุปกรณ์แบบนี้ถ้าเป็นคนประมงบ้านเราแถวอ่าวไทยตอนบน อย่างเช่น คนบางปะกง
จอมยุทธ์หนึ่งเดียวในชุมชนคลองหัวจาก ตำบลบางปะกง อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา ที่เลี้ยงตัวด้วยป่าจากจนทุกวันนี้ เป็นเวลากว่า 60 ปี และยังทำหน้าที่สางป่าให้อยู่ในสภาพที่ไม่ตกขโมง
ป่าชายเลนบริเวณปากแม่น้ำบางปะกงมีพันธุ์ไม้มากกว่า 80 ชนิด แต่ชนิดที่คนใช้ประโยชน์ได้แทบทุกส่วน คือต้นจาก สมัย 40-50 ปีก่อน จากเป็นพืชที่ผูกพันกับทุกชีวิต อาหาร