สวนยกร่อง เกษตรเชิงนิเวศมรดกของโลก

สวนผลไม้ที่ราชทูตฝรั่งเศสมองเห็นจากริมฝั่งแม่น้ำเมื่อกว่า 300 ปีนั้นเป็น “สวนยกร่อง”
สวนยกร่องเป็นระบบเกษตรที่เก่าแก่พอ ๆ กับนาขั้นบันได สวนยกร่องเป็นการทำสวนในที่ลุ่มน้ำท่วมถึง ในสภาพดินเหนียวไม่ร่วนซุย แต่มีอินทรียวัตถุสูงเพราะตะกอนดินที่มีธาตุอาหารไหลมาสะสมในหน้าน้ำหลาก การยกคันดินรอบสวนเป็นการป้องกันน้ำท่วม ส่วนคันดินด้านในพร้อมร่องน้ำเป็นการจัดการดินและน้ำ เพื่อให้สามารถปลูกไม้ยืนต้นจำพวกไม้ผลเมืองร้อนได้แม้เป็นที่ลุ่ม ในระบบนิเวศสามน้ำ น้ำเค็มจะเข้าถึงพื้นที่ประมาณ 3 เดือน ร่องสวนจะทำหน้าที่เก็บน้ำจืดไว้ใช้ และป้องกันน้ำเค็ม ในช่วงน้ำหลากก็จะป้องกันน้ำท่วมพืชผลได้ระดับหนึ่ง

สวนยกร่องเป็นรูปแบบเกษตรกรรมที่เป็นภูมิปัญญาของชาวจีนโพ้นทะเลที่เข้ามาอยู่ในไทย สันนิษฐานว่ามีมาตั้งแต่ต้นกรุงศรีอยุธยาในแผ่นดินสมเด็จพระนครินทราธิราช หรือสมเด็จพระอินทราชา (ครองราชย์ พ.ศ.1952-1967) เอกสารของหม่าฮวน (ล่ามในคณะของผู้บังคับกองเรือเจิ้งเหอ) บอกว่า ยุคนั้นมีคนจีนจากภาคใต้แถบกวางตุ้ง-กวางสี เคลื่อนย้ายเข้ามาอยู่แถวคลองอ้อม (เขตอำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี) และบริเวณใกล้เคียง คนเหล่านี้เป็นผู้ริเริ่มทำสวนแบบยกร่อง ถัดจากสวนออกไปเป็นทุ่งนากว้างใหญ่ ที่ลุ่มภาคกลางจึงมีคนทำเกษตรสองระบบอยู่ปนกันคือ ชาวสวนกับชาวนา

การทำสวนแบบยกร่องที่แบ่งเป็นขนัด มีร่องน้ำ ลำประโดง เป็นรูปแบบในการจัดการน้ำ ซึ่งไม่พบในพื้นที่ภาคอื่น ไม่ว่าจะเป็นภาคกลางตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือภาคเหนือ แต่พบมากในแถบฝั่งธนบุรี นครปฐม สมุทรสาคร สมุทรสงคราม ปทุมธานี นนทบุรี ราชบุรี และฉะเชิงเทรา พื้นที่ดังกล่าวอยู่บริเวณสามหลี่ยมปากแม่น้ำภาคกลางตอนล่างทั้งสิ้น เป็นทำเลทองที่คนจีนโพ้นทะเลนิยมมาตั้งหลักแหล่งทำมาหากิน เพราะดิน น้ำ อุดมสมบูรณ์ การสัญจรค้าขายคล่องตัว มีรายได้ดีกว่าทำนา ต่อมาคนไทยเริ่มทำสวนยกร่องบ้าง แต่ยังอาศัยคนจีนเป็นแรงงาน เพราะงานยกร่องสวนเป็นงานหนัก

ปัจจุบัน ระบบสวนยกร่องในลุ่มน้ำเจ้าพระยา ทั้งกรุงเทพฯ แถวฝั่งธนบุรี และนนทบุรี ที่เคยเป็นแหล่งผลิตผลไม้ขึ้นชื่อ แทบไม่เหลือแล้ว เพราะการขยายตัวของเมือง พื้นที่สวนหลายแห่งกลายเป็นบ้านจัดสรร ที่ยังเหลืออยู่บ้างก็เผชิญกับปัญหาน้ำเสีย น้ำเค็ม น้ำท่วม เพราะการเปลี่ยนแปลงของทางน้ำธรรมชาติที่เกิดจากการก่อสร้างโครงการต่าง ๆ

ฉะเชิงเทราก็เหลือไม่มาก ที่ยังมีอยู่ในเวลานี้ก็แถว ๆ อำเภอบางคล้า อำเภอเมือง เฉพาะชุมชนที่อยู่ริมแม่น้ำบางปะกง

ระบบท้องร่อง

ท้องร่องมีองค์ประกอบ 3 ส่วนหลัก คือ ร่องน้ำ อกร่อง และคันสวน

ร่องน้ำใช้ในการกักเก็บน้ำจืด ทั้งเพื่อใช้ในการเกษตรและอุปโภค เพราะสมัยก่อนไม่มีน้ำประปา ชาวสวนจะดึงน้ำเข้าสวนในช่วงที่น้ำในแม่น้ำบางปะกงเป็นน้ำจืด ร่องน้ำในอดีตที่เคยใช้เพื่อทำนา สมัยก่อน คนจีนที่ทำสวนมิใช่ว่าไม่ปลูกข้าว แต่จะปลูกแค่พอกิน โดยปลูกสองรูปแบบ คือ นาในท้องร่องสวน กับนาอกร่องสวน หลังทศวรรษ 2530 ต้นทุนการปลูกข้าวสูงขึ้น การปลูกข้าวเพียงเล็กน้อยไม่คุ้มกับการลงทุนลงแรง ชาวสวนก็เลยเลิก ทุกวันนี้ร่องน้ำจะเป็นส่วนที่กักเก็บน้ำและเลี้ยงปลาเศรษฐกิจ เช่น ปลากะพง ปลานิล ปลาดุก ปลาตะเพียน และปลาจีน (ปลาซ่ง) ปลาอื่น ๆ เป็นผลพลอยได้จากการสูบน้ำเข้าสวน ร่องน้ำยังเป็นสวนสนุกของเด็กสมัยก่อน เล่นน้ำ ตกปลา หาสัตว์น้ำ ก็ในร่องสวนนี้ทั้งนั้น

การสูบน้ำเข้าสวนสมัยก่อนไม่มีท่อพญานาค (ท่อสูบน้ำพลังสูง) ชาวสวนจะทำท่อจากลำต้นตาล โดยเจาะลำต้นให้กลวง ใส่วัสดุเพื่อปิดอุดท่อสำหรับควบคุมการถ่ายน้ำเข้า-ออกสวน

ส่วนอกร่องจะปลูกพืชหลักมากกว่าหนึ่งชนิด เช่น มะม่วง พลู มะนาว ข้างอกร่องปลูกหมากกับมะพร้าว สมัยก่อนคนยังกินหมาก จึงเป็นพืชที่ได้ราคาดี หมากเป็นพืชทนน้ำเค็ม ทั้งช่วยป้องกันตลิ่งพัง

มะม่วงที่ปลูกในสวนยกร่องรสชาติดี ถึงขนาดว่าแม่ค้าตลาดมหานาคให้ราคาสูงกว่ามะม่วงที่ปลูกในสวนธรรมดา มาถึงยุคที่มีการพัฒนาพันธุ์มะม่วงและมะพร้าวน้ำหอม ยิ่งเข้าทาง มะพร้าวน้ำหอมชอบดินเค็ม แม้มีการนำไปปลูกในที่ลุ่มอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ที่ปากแม่น้ำก็ต้องใส่เกลือในดิน ไม่งั้นไม่อร่อย มะพร้าวน้ำหอมบางคล้าขึ้นชื่อ ต่อมามีการนำไปผสมกับแป้งขนมจาก กลายเป็นขนมจากสูตรมะพร้าวน้ำหอม สินค้าลายเซ็นของจังหวัดฉะเชิงเทรา ส่วนมะม่วงที่ขึ้นชื่อของบางคล้าก็คือ มะม่วงน้ำดอกไม้ รสชาติอร่อยที่อื่นสู้ไม่ได้ ปัจจุบัน มะม่วงน้ำดอกไม้จากบางคล้าครองแชมป์ทั้งขายในประเทศและส่งออกต่างประเทศในกลุ่มของมะม่วงสุก

องค์ประกอบสุดท้ายของสวนยกร่อง คือ คันดิน เป็นส่วนสำคัญของการเกษตรยกร่องในลุ่มแม่น้ำบางปะกงที่มีสภาพนิเวศสามน้ำ คันดินทำหน้าที่ป้องกันไม่ให้น้ำเค็มรุกล้ำเข้ามาในสวน และยังใช้ป้องกันน้ำท่วมในฤดูน้ำหลาก

เกษตรนิเวศที่กำลังจะสูญหาย

ภูมิปัญญาสวนยกร่องเป็นระบบเกษตรที่เก่าแก่พอ ๆ กับนาขั้นบันได สวนยกร่องเป็นการทำสวนในที่ลุ่มน้ำท่วมถึง ในสภาพดินเหนียวไม่ร่วนซุย แต่มีอินทรียวัตถุสูงเพราะตะกอนดินที่มีธาตุอาหารไหลมาสะสมในหน้าน้ำหลาก การยกคันดินรอบสวนเป็นการป้องกันน้ำท่วม ส่วนคันดินด้านในพร้อมร่องน้ำเป็นการจัดการดินและน้ำ เพื่อให้สามารถปลูกไม้ยืนต้นจำพวกไม้ผลเมืองร้อนได้แม้เป็นที่ลุ่ม ในระบบนิเวศสามน้ำ น้ำเค็มจะเข้าถึงพื้นที่ประมาณ 3 เดือน ร่องสวนจะทำหน้าที่เก็บน้ำจืดไว้ใช้ และป้องกันน้ำเค็ม ในช่วงน้ำหลากก็จะป้องกันน้ำท่วมพืชผลได้ระดับหนึ่ง

การทำสวนเป็นงานประณีต อาศัยความขยันและอดทน ซึ่งคนจีนยุคเสื่อผืนหมอนใบมีคุณสมบัติดังว่าเต็มร้อย ไม่ว่าจะเดินถอนหญ้าทุกวัน ริดแต่งและเก็บกวาดทางหมากและมะพร้าวไม่ให้ตกลงไปในร่องน้ำ ไม่อย่างนั้นน้ำจะเน่า ทุกปีก็ต้องขุดลอกร่องเพื่อรักษาระดับความลึกไม่ให้ร่องน้ำตื้นเขิน โดยโกยเอาโคลนเลนในร่องขึ้นมาพอกเสริมบริเวณอกร่องและคันดิน และเสริมบริเวณโคนต้นไม้ด้วย ดินโคลนจากท้องร่องเป็นปุ๋ยที่ดี ปฏิบัติการดังกล่าว ไม่อาจใช้เครื่องจักรสมัยใหม่ที่มีขนาดใหญ่เทอะทะอย่างรถแบ็คโฮ การขุดลอกท้องร่องจึงใช้แรงคนอย่างเดียวเท่านั้น เช่นเดียวกับการเก็บผลผลิต ก็ใช้แรงคน ยิ่งทำสวนหลายขนัดก็ยิ่งใช้เวลาและแรงคนมากขึ้นเป็นเงาตามตัว

ด้วยเหตุผลดังกล่าว ประกอบกับการที่ฉะเชิงเทราเปลี่ยนแปลงไปตามสภาพเศรษฐกิจ สวนยกร่องหลายแห่งเปลี่ยนโฉมกลายเป็นบ่อเลี้ยงกุ้งกุลาดำ หลายแห่งเลิกทำสวนผลไม้ด้วยหลายสาเหตุ เช่น ปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง น้ำเค็ม ที่เกิดจากการสร้างประตูน้ำขวางลำคลองทำให้เส้นทางน้ำเปลี่ยนแปลง การขยายตัวของชุมชนเมืองที่เปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดิน เป็นต้น

เกษตรนิเวศที่เป็นมรดกโลก

ระบบสวนยกร่องเป็นระบบเกษตรเชิงนิเวศที่เกิดมาพร้อมกับอารยธรรมของมนุษย์ โดดเด่นในด้านการออกแบบเพื่อจัดการดินและน้ำโดยไม่ฝืนธรรมชาติ ทำให้สามารถรักษาความหลากหลายทางชีวภาพที่เกิดจากระบบสวนได้

บางประเทศสามารถรักษาระบบเกษตรโบราณนี้ไว้ได้ อย่างเช่น ระบบสวนลอยน้ำของเม็กซิโก หรือ Chinampas ที่สืบทอดมาจากวัฒนธรรมของชาวแอซเทคโบราณ การทำฟาร์มระบบ Chinampa เป็นรูปแบบเกษตรกรรมโบราณของชุมชนชาวพื้นเมืองอเมริกันเมื่อพันปีก่อน ลักษณะคล้ายสวนยกร่อง ต่างกันตรงที่ใช้โคลนจากทะเลสาบผสมกับซากต้นไม้ที่เน่าเปื่อยเพื่อเป็นปุ๋ย สวนลอยน้ำที่ว่ามักปลูกอ้อยหรือไม้พุ่มริมร่องสวนเพื่อป้องกันตลิ่ง

เมื่อปี 2017 รัฐบาลเม็กซิโก เสนอต่อองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ ให้บันทึกสวนยกร่องลอยน้ำ Chinampas เป็นมรดกเกษตรของโลก (Globally Important Agricultural Heritage Systems: GIAHS) เช่นเดียวกับที่จีน ญี่ป่น เกาหลี และอินเดีย เสนอมรดกวัฒนธรรมเกษตรของตน และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางการเกษตรของโลก

ส่วนบ้านเรา เช่นเคย ไม่สามารถรักษามรดกวัฒนธรรมการเกษตรเชิงนิเวศไว้ได้ “สวนยกร่อง” ภูมิปัญญาเก่าแก่ อาจค่อย ๆ รอวันสูญหายไปอย่างน่าเสียดาย

TAGS #สวนยกร่องบางคล้า #สวนท้องร่อง #อยู่ดีกินดี #วิถีริมแม่น้ำ #บางปะกง #หาอยู่หากิน #พายเรือทวนน้ำ #เกษตรเชิงนิเวศมรดกของโลก

อ้างอิง

https://www.silpa-mag.com/culture/article_32890

https://www.sac.or.th/portal/th/article/detail/516

https://web.facebook.com/biothai.net/photos/a.467826533255873/3552260268145802/?type=3&_rdc=1&_rdr

Share:

ขนมไทย ตั้งแต่โบราณแล้วใช้น้ำตาลโตนดทั้งนั้น หรือขนมทุกอย่างสมัยนี้ที่ใช้กะทิ เข้ากับน้ำตาลโตนดทั้งนั้น หรือขนมที่หวานด้วยการโรยหน้าอย่างพวกนางเล็ด
ย้อนรอย ตำนานเพลงบางปะกง ที่ครูนคร มังคลายน แต่งขึ้นในปี
ค้นพบเรื่องราว "วัดเมืองแมด" อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา วัดเก่าแก่สมัยต้นรัตนโกสินทร์
ลิ้มลองกะปิเคยบางปะกงเกรดพิเศษ (550ก.) จาก 'กินดีคราฟท์' ทำจากเคยแดงแท้

ส่งข้อความถึงเรา

Tags
NCDs กะปิสองคลอง กะปิเคย กินดีคราฟท์ กินตามน้ำ ของดีบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา ตักบาตรน้ำผึ้ง ต้นจาก ที่นี่บ้านเรา ทุเรียนปราจีน ทุเรียนพันธุ์ไหนอร่อยที่สุด ธรรมชาติ น้ำตาลโตนด น้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า บั้งไฟฉะเชิงเทรา บางปะกง ป่าจาก ป่าชายเลน พระยาสมุทบุรานุรักษ์ พายเรือทวนน้ำ มอญ ยั่งยืน ยิ่งยศ ฐาปนกุลศักดิ์ รัชกาลที่ 5 ลาลูแบร์ วัด วัดพิมพาวาส วิถีริมแม่น้ำ ศักดิ์ปากหมา ศักดิ์ปากหมาทุเรียนปราจีนแท้ สยบเบาหวานด้วยรสขมของมะระขี้นก หลวงพ่อโสธร หาอยู่หากิน อยู่ดีกินดี อยู่ดีกินดีที่แม่น้ำบางปะกง เคย เดชศักดิ์ บุญทาสิน แชร์โลมา แม่น้ำ แม่น้ำบางปะกง แม่น้ำปราจีนบุรี โลมาหัวบาตร โลมาอิรวดี ใบจาก
ย้อนรอย ตำนานเพลงบางปะกง ที่ครูนคร มังคลายน แต่งขึ้นในปี 2497 เพื่อดึงดูดผู้ชม และกลายเป็น เพลงประจำจังหวัดฉะเชิงเทรา โดยมีเพ็ญศรี
ค้นพบเรื่องราว "วัดเมืองแมด" อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา วัดเก่าแก่สมัยต้นรัตนโกสินทร์ แหล่งค้นพบจารึกอักษรลาวโบราณ เชื่อมโยงประวัติศาสตร์ชุมชนลาวพวน
โรงเจแห่งแรกในฉะเชิงเทรา สร้างขึ้นใน พ.ศ. 2440 สมัยรัชกาลที่ 5 ตั้งอยู่ใน ตำบลเทพราช อำเภอบ้านโพธิ์ เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์
วัดพิมพาวาสจะมีการประกอบพิธี “ตักบาตรน้ำผึ้ง”ทุกวันเพ็ญเดือนสิบ ประเพณีดั้งเดิมของชาวมอญที่ทั่วประเทศเหลือสืบทอดเพียงไม่กี่แห่ง
ผีแถน เทพเจ้าผู้ควบคุมฟ้าฝนของคนอีสาน มีความสำคัญในพิธีกรรมต่างๆ เช่น บุญบั้งไฟ ซึ่งจัดขึ้นเพื่อขอฝนและความอุดมสมบูรณ์ในฤดูทำนา
งานบุญบั้งไฟฉะเชิงเทรา หรือ บั้งไฟท่าตะเกียบ จัดขึ้นที่ อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา เป็นงานประเพณีที่สืบทอดจากชาวอีสาน มีขบวนแห่ การแสดง และการจุดบั้งไฟที่น่าตื่นตาตื่นใจ