ปี 2497 ครูนคร มังคลายน นำวงดนตรีไปแสดงที่โรงหนังแห่งหนึ่งในอำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา วันแรกมีคนมาชมกันแน่นเพราะคนคอยมาหลายวัน แต่วันต่อ ๆ มาคนชักน้อยลง
“ผมไปเล่นที่ฉะเชิงเทรา คิดว่าพรุ่งนี้อยากให้คนมาดูกันแน่น ผมก็เลยประกาศว่า รู้สึกดีใจที่ชาวบางปะกง ชาวแปดริ้วมาให้เกียรติผม มาต้อนรับผม เพราะฉะนั้น ผมจะตอบแทนบุญคุณพี่น้องด้วยการแต่งเพลงให้ชาวบางปะกงเป็นที่ระลึกหนึ่งเพลง พรุ่งนี้ขอให้พี่น้องมาฟังดูว่าจะชื่นชอบไหม”
คนสมัยนี้อาจไม่รู้จัก “นคร มังคลายน” แต่รุ่นเบบี้บูมเมอร์ไม่น่าพลาด ครูนครได้ชื่อว่า “ราชาเพลงแปลง” ที่จับเพลงดังทั้งไทย-ฝรั่งมาแปลงเนื้อร้องให้สนุกสนาน และเป็นมือหนึ่งแต่งเพลงโฆษณาฮิตติดหู ความยาวตามเวลาที่กำหนดเป๊ะ ที่คุ้นหูที่สุด ก็คือ เพลงโฆษณาถ่านไฟฉายตรากบ “ต้นตระกูลผมแต่ปางบรรพ์ หลังย่ำสายัณห์ดวงตะวันเลี่ยงหลบ จะเดินทางเยื้องย่างไปไหน จำเป็นต้องใช้จุดไต้จุดคบ….”
เมื่อรับปากผู้ชมว่าจะแต่งเพลงให้คนบางปะกง เลิกการแสดงกลับถึงที่พักซึ่งเป็นโรงแรมตั้งอยู่ริมแม่น้ำบางปะกง ครูนครก็นั่งแต่งเพลงกลางดึกคืนนั้นทันที
“สมัยนั้นฉะเชิงเทราใช้ไฟตรง ไฟดีซี ไม่เหมือนไฟสลับ ไฟตรงมันมืด ในห้องที่โรงแรมแขวนหลอดไฟฟ้ารูปร่างเหมือนกับไข่ไก่ไว้ลูกนึง สมัยนั้นผมหนุ่ม ตายังดี เขียนริมแม่น้ำ โรงแรมนั้นยังอยู่ ผมแต่งริมฝั่งบางปะกงจริง ๆ พอคืนรุ่งขึ้นคนมากันแน่นเลย อยากฟังเพลงที่ผมแต่งเพื่อชาวแปดริ้ว เมื่อผมออกไปร้อง บรรดาผู้ชมต่างปรบมือด้วยความชอบใจ”
เพลงนี้ชื่อ “บางปะกง” ลองฟังกัน https://youtu.be/bsVn2yrVn3Y
ฝั่งชายน้ำบางปะกง
ยามแสงอาทิตย์อัสดง
ใกล้จะค่ำลงแล้วหนา
แต่บางปะกงนั้นยังคงสวยงามตา
คราใกล้สนธยา
ยิ่งพาให้เราสุขสันต์
แดดจวนลับลงรำไร
มองเห็นเรือน้อยล่องลอยไป
ตื่นใจดังยลธารสวรรค์
เยือกเย็นสายลม
พริ้วพรมอย่างนี้ทุกวัน
ธรรมชาติยามสายัณห์
ได้เห็นแล้วลืมไม่ลง
แม้จากไปอยู่ไกลแสน
ก็ไม่ขอลืมแดน
ที่เคยปักใจลุ่มหลง
จะเฝ้าแต่ฝันถึงอาทิตย์อัสดง
ชายฝั่งบางปะกง
นั้นลืมไม่ลงแน่เอย
โอ้งามแท้บางปะกง
ใครได้เห็นเมื่ออัสดง
ก็คงสุดกล่าวคำเฉลย
ยากจะกล่าวชม
ให้สมความงามนั้นเลย
เพลงนี่กล่าวพิเปรย
ไม่ถึงแม้เพียงครึ่งเดียว
เพลงนี้ได้รับการบันทึกแผ่นเสียง ขับร้องโดยเพ็ญศรี พุ่มชูศรี ในปีเดียวกัน
ต่อมา ร้อยตรีกิตติ ประทุมแก้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราในขณะนั้น ได้มาติดต่อครูนคร ขออนุญาตนำเพลงบางปะกงไปใช้เป็นเพลงประจำจังหวัด ครูนครเต็มใจและรู้สึกเป็นเกียรติอย่างสูง มีพิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณให้แก่ครูนครที่บางปะกง
อุบายดึงคนดูด้วยการแต่งเพลงที่เป็นศักดิ์ศรีให้แก่คนบางปะกงได้ผลเกินคาด ครูนครนำไปใช้เมื่อไปเปิดวิกที่อื่น ๆ ทำให้แต่ละแห่งมี “๑ เพลง ๑ จังหวัด” กันไม่น้อย อย่างเช่น เพลงน้ำตกสาลิกา ของนครนายก (ชรินทร์ นันทนาคร ขับร้อง) เพลงคืนหนึ่งในสงขลา (สุเทพ วงศ์กำแพง ขับร้อง) เพลงแหลมสน (ชาญ เย็นแข ขับร้อง) สองเพลงนี้เพื่อคนสงขลา เพลงหาดสุรินทร์ ของคนภูเก็ต (ธานินทร์ อินทรเทพ ขับร้อง) เพลงหลังสุดนี้หาฟังยากมาก
แต่เพลงบางปะกง ถือเป็นตำนานแรกสุด
TAG : #ตำนานเพลงบางปะกง #เพลงเก่าเล่าเรื่อง #อยู่ดีกินดี #วิถีริมแม่น้ำ #หาอยู่หากิน #พายเรือทวนน้ำ #อยู่ดีกินดีที่แม่น้ำบางปะกง #นครมังคลายน #บางปะกง #เพลงประจำจังหวัดฉะเชิงเทรา
ข้อมูลและภาพจาก ศิลปวัฒนธรรม ฉบับตุลาคม 2537, เผยแพร่ใน https://www.silpa-mag.com/culture/article_46572 , 21 มิถุนายน 2566